ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาเหล็กโดยตรงคือ ราคาวัตถุดิบ และสภาวะการก่อสร้างและราคาในตลาดโลกความต้องการของตลาด เนื่องจากประเทศไทยมีการแข่งขันแบบทุนนิยมแข่งขันได้อิสระ พอสินค้าขาดตลาดหรือโดนผูกขาดจากผู้ผลิต และดีลเลอร์ก็จะมีการปรับราคาตามใจชอบ พอสินค้าล้นตลาดก็เทขายจนราคาตกต่ำ บางครั้งราคาถูกมาก แต่ตรวจสอบสินค้าก็จะเจอปํญหาสินค้าต่ำกว่าสเปคมาก น้ำหนักขาดจนไม่ได้มาตรฐานของเหล็ก เพราะฉะนั้นต้องระวังเป็นพิเศษ ส่วนปัจจัยโดยอ้อมจะแยกแยะเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินคาดการณ์ได้คร่าวๆดังนี้
1) ราคาน้ำมันและราคาสินแร่ประเภท เช่น ถ่านโค้กที่ใช้ในการหลอมเหล็ก ที่เกี่ยวข้องกับเหล็กทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อมเช่น อลูมีเนียม สแตนเลส แม้แต่ราคาโลหะทุกชนิด จะมีต่อสต๊อกของสินค้า ถ้าราคาเพิ่มขึ้นมากจะทำให้ราคาเหล็กเพิ่มขึ้นตามด้วย (จากการขนส่งและจิตวิทยา)
2) สภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจดีเงินสะพัดก่อสร้างเฟื่องฟู เหล็กจะขึ้นเรื่อยๆไม่มีราคาลง เพราะความต้องการมีมาก รวมทั้งธนาคารปล่อยสินเชื่อที่ส่วนใหญ่ เมื่อเศรษฐกิจดีมีเงินสะพัด จะต้องอาศัยสิ่งปลูกสร้างในการขอสินเชื่อ การก่อสร้างจะมีมากจนบางครั้ง สินค้าบางรายการขาดตลาดเป็นเวลานานทำให้ราคาเหล็กจะค่อยๆเพิ่มขิ้น(ข้อนี้เชื่อได้เกือบ 100 เปอร์เซนต์)
3) เทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ มีการยกบ้านสร้างบ้านใหม่ถือว่ามงคล เหล็กจะขึ้นแทบทุกปี จะมีการก่อสร้างมากขึ้น รวมทั้งเป็นการเปิดงบประมาณการของทุกธุระกิจ จะมีการใช้วัสดุก่อสร้างมาก ถือเป็นฤดูขายของเหล็กด้วย (ยกเว้นปี2552 เนื่องจากราคาตลาดโลกตกต่ำ และเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก)
4) ย่างเข้าเดือน 6 (มิถุนายน)ฝนตก เหล็กจะมีราคาลดลงบ้าง เนื่องจากการก่อสร้างต้องอาศัยอากาศที่ปลอดโปร่ง โครงการบางโครงการจะชะลอการใช้ลง รวมทั้งธนาคารปิดสิ้นงวดกลางปี ทำให้ปล่อยสินเชื่อออกมาน้อย การอนุมัติเงินของธนาคารใช้จ่ายในการก่อสร้างเพราะพ๊อตช่วงครึ่งปีแรกจะเต็ม จะชะลอการลงทุนทำให้ราคาเหล็กพลอยลดลงด้วย
5) มังกรขยับตัวเมื่อไรมีผลกับราคาทุกที ทั้งขึ้นทั้งลง ตามสภาวะของเศรษฐกิจของพี่เบิ้มของเอเซียมีผลกับประเทศเราด้วย (มังกรคือประเทศจีน) เพราะตลาดของจีนมีบทบาทอย่างมากทั้งในเอเชีย และทั่วโลก บทบาทของยุโรปและอเมริกาก็ลดลงอย่างมาก ในตลาดราคาเหล็กทำให้จีนมีอิทธิพลและบทบาทต่อราคาเหล็กมากขึ้น ในตลาดโลกทั้งแนวโน้มในอนาคตอย่างมากอีกด้วย
6) เปลี่ยนรัฐบาลไม่มีผลกับราคาเหล็กขึ้นหรือลงมากนักแต่ถ้าลดภาษีนำเข้าเมื่อไรราคาลดลงแน่นอน ส่วนใหญ่นโยบายของทุกรัฐบาลจะให้การแข่งขันแบบเสรีอยู่แล้ว การเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยๆจึงไม่ค่อยมีผลต่อราคาขึ้นหรือลงมากแต่อย่างใด ที่มีผลโดยตรงก็คือภาษีนำเข้าจะมีผลโดยตรงมากกว่าต่อราคาเหล็กเพราะจะมีผลทางจิตวิทยาและต้นทุนที่แท้จริงทำให้มีผลราคา้เหล็กมากกว่า
7) ถ้าโปรเจคใหญ่ๆจากรัฐบาลมีมาก ราคาเหล็กก็จะเพิ่มขึ้นด้วย โดยทั่วไปรัฐบาลจะมีงบประมาณประจำแผนเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่ถ้ามีโครงการใหญ่ๆเช่นสนามบิน รัฐสภาใหม่ รถไฟรางคู๋ หรือโปรเจคใดก็ตามที่ใช้การลงทุนอย่างต่อเนื่อง และจะสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ รวมทั้งจะก่อให้เกิดอุปสงค์ อุปทานอย่างมาก โดยเฉพาะท้องถิ่นที่มีการลงทุน ก่อให้เกิดการก่อสร้างมีผลต่อราคาเหล็กในทางบวกอย่างชัดเจน
8) ถ้าลดการผูกขาดของเครือใหญ่ๆแบงค์สนใจร้านเหล็กที่จำหน่ายแต่เหล็กเพียงอย่างเดียว มากกว่านี้ราคาจะลดลงเนื่องจากสินค้าจำพวกเหล็กเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการก่อสร้าง ส่งผลต่อเศรษฐกิจไม่ว่าในยุคใดสมัยใดก็ตาม ประเทศไทยของเราเริ่มมีการพัฒนาอุตสาหกรรมมาพร้อมๆกับญี่ปุน เกาหลี หรือจีนที่พัฒนาอุตสาหกรรมหลังประเทศเรา แต่ประเทศเรายังไปไม่ถึงไหนเลย ทุกวันนี้วงการเหล็กของเราตามหลังทุกประเทศ อันนี้คงต้องถามคนในใจไทยทุกคนว่าประเทศของเราขาดอะไรไป
อยากให้วงการเหล็กของไทยไปได้ไกลแข่งขันได้ทุกชาติในโลก ทุกคนต้องร่วมมือกัน พัฒนา ร่วมใจกันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
Credit: Ksteelcenter
|